ข่าวประชาสัมพันธ์ประจำสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563

ข่าวประชาสัมพันธ์ประจำสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563

ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติชี้ CPTPP ผลประโยชน์ภาคเกษตรไม่ชัดเจน ผูกขาดขอบเขตกว้าง รัฐต้องรอบคอบ

          นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า สภาเกษตรกรแห่งชาติได้ศึกษาเนื้อหาในความตกลง CPTPP ตลอดจนศักยภาพเงื่อนไขความพร้อมของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเกษตรกรและภาคเกษตรกรรมของประเทศไทยยิ่งมีความห่วงกังวล หากรัฐบาลจะตัดสินใจเข้าเป็นภาคีสมาชิก เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบอย่างกว้างขวางต่อภาคเกษตร และแน่นอนเกษตรกรรายย่อยที่ยากจนมีความด้อยโอกาสในด้านต่างๆ รวมทั้งผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตลอดจนความหลากหลายทางชีวภาพ การพึ่งพาตนเองในด้านพันธุ์พืชส่งผลไปยังความมั่นคงด้านอาหาร เนื่องจากความตกลง CPTPP มีข้อบัญญัติว่าให้ประเทศสมาชิกต้องเข้าร่วมอนุสัญญา UPOV 1991 ซึ่งการเข้าร่วมจะส่งผลให้ไทยต้องปรับปรุงพ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ.2542 ให้สอดคล้องซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงอธิปไตยคนในชาติด้วย ทั้งนี้ สภาเกษตรกรแห่งชาติมีความเห็นว่าความตกลง CPTPP มีขอบเขตกว้างขวางมาก และประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับยังไม่ชัดเจน รัฐบาลไม่ควรรีบเร่งจนขาดการพิจารณาอย่างรอบคอบ ละเอียด รอบด้าน และต้องมีมาตรการเพื่อสร้างเสริมศักยภาพเป็นเงื่อนไขความพร้อมของเกษตรกรกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมเป็นเบื้องต้นก่อน ถึงเวลานั้นจะเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกภายหลังก็ไม่สายเกินไป

สภาเกษตรกรแห่งชาติร่วมกับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดสัมมนาเพิ่มศักยภาพเกษตรกรไทย ในยุคการค้าเสรี ที่ จ.บุรีรัมย์

          นายอภิศักดิ์ อังคสิทธิ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ คนที่ 1 และประธานสภาเกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 15-16 ก.ค.2563 สภาเกษตรกรแห่งชาติและกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ร่วมกันเตรียมความพร้อมให้เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ในการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ ด้วยการดำเนินโครงการสัมมนา “การเพิ่มศักยภาพเกษตรกรไทยในยุคการค้าเสรี” ณ โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จังหวัดบุรีรัมย์ โดย นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน ผู้ร่วมสัมมนาประกอบด้วย เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หรือกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ รวมจำนวน 30 คน ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับเกษตรกรไทยผ่านการจัดอบรมสัมมนา เรื่อง การพัฒนาสินค้าเกษตรของไทยให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาด และผู้ซื้อทั้งไทยและต่างประเทศ , การเปิดเวทีวิเคราะห์สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ของผู้เข้าร่วมสัมมนา โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าการตลาดให้คำแนะนำเรื่องการพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ต้องการของตลาด , การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูล/ประสบการณ์ด้านช่องทางการตลาดและการส่งออกสินค้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมสัมมนานำความรู้และประสบการณ์ที่ได้แลกเปลี่ยนกันไปพัฒนาสินค้า ยกระดับการผลิตที่มีคุณภาพ มาตรฐานเพิ่มยอดขาย ได้ในราคาที่สูงขึ้น ขยายช่องทางการจำหน่ายออนไลน์และออฟไลน์ทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ นำไปสู่การสร้างรายได้ที่แน่นอน มั่นคงให้กับเกษตรกร และสมาชิกในเครือข่ายของสภาเกษตรกรแห่งชาติต่อไป

………………………………………….

เสียง : วัฒนรินทร์ สุขีวัย
เทคนิค : วัชร มีแสงเงิน