สภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษต่อยอดผลผลิตเกษตรกรให้ก้าวผ่านสถานการณ์ยากลำบาก

          นายวิศณ์  ประสานพันธ์ หัวหน้าส่วนยุทธศาสตร์การเกษตร สภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาภาคการเกษตรเผชิญกับสถานการณ์ที่หลากหลายมากตั้งแต่การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ที่ขยายลุกลามไปทั่ว ภาวะฝนแล้ง น้ำท่วม  กระทบผลผลิต  สินค้าล้นตลาดและขาดรายได้ การดำเนินชีวิตติดขัดยากลำบากแตกต่างกันไป สภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษได้รับปัญหาต่างๆจากเกษตรกรและเข้าช่วยเหลือ แก้ปัญหา รวมทั้งหาช่องทางทำการตลาดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ยกตัวอย่างเช่น เกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงอำเภอยางชุมน้อย พื้นที่ปลูกหอมแดงกว่า 250 ไร่ ถูกน้ำจากลำน้ำมูลเอ่อเข้าท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่การสำรวจแปลงหอมแดงในพื้นที่อำเภอยางชุมน้อย พบพื้นที่เสียหายมากกว่า 2,000 ไร่ เกษตรกรขอความช่วยเหลือมาทางสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ จึงเชิญจังหวัด เกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ พาณิชย์จังหวัด ร่วมปรึกษา รวมทั้ง ‘เชฟเต๋า’ นายสิรพงศ์ สังข์แก้ว วิทยากรชำนาญการ สาขาการประกอบอาหาร ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดศรีสะเกษ ว่าน่าจะแปรรูปเป็นกิมจิได้ จึงทดลองทำกิมจิรอบแรก 4 กิโลกรัม ถือว่าผ่าน รอบที่ 2 ในงานช่วยเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงพื้นที่โดนน้ำท่วม โดยเชิญแกนนำกลุ่มมาเรียนรู้การทำกิมจิแล้วปรับรสชาติ เพิ่มเป็น 40 กิโลกรัม ขายดีขึ้น รอบที่ 3 ทำจำหน่ายในงานตักบาตรของจังหวัด 140 กิโลกรัม จำหน่ายหมดเลย  ภายใต้แบรนด์ ‘กิมจิต้นหอมยางชุมน้อย’

         นายวิศณ์ กล่าวต่อไปว่า  หอมแดงศรีสะเกษนั้นขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ด้วยเทคนิคการเพาะปลูกของคนในท้องถิ่นที่ถ่ายทอดกันมายาวนานจึงทำให้หอมแดงศรีสะเกษมีกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นแตกต่างจากแหล่งปลูกพื้นที่อื่น กล่าวคือหอมแดงศรีสะเกษมีเปลือกแห้งมัน สีแดงเข้มปนม่วง หัวมีลักษณะกลม มีกลิ่นฉุน ดินมูลทรายที่เป็นดินตะกอนลุ่มน้ำโบราณลำน้ำมูลและลำน้ำสาขามูลที่ทับถมมานาน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์สูง ประกอบกับเมื่อผสมกับดินโพนหรือดินจอมปลวกจึงทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ กลิ่นหอม อร่อยและเป็นเอกลักษณ์  ทั้งนี้ หอมแดงศรีสะเกษที่นำมาทำกิมจิควรมีอายุ ประมาณ 30-45 วัน เกินกว่านี้จำหน่ายเป็นแบบแห้ง ‘กิมจิต้นหอมยางชุมน้อย’ ใช้เวลาหมัก 2 วัน จำหน่ายหน้างานได้เลย หากเป็นการสั่งซื้อแบบออนไลน์หมัก 1 วันแล้วส่งวันรุ่งขึ้นถึงมือผู้บริโภครสชาติจะพอดีอร่อย  ตลาดของ ‘กิมจิต้นหอมยางชุมน้อย’ ตอนนี้รับคำสั่งซื้อในจังหวัดและส่วนหนึ่งจำหน่ายผ่านออนไลน์ไปกรุงเทพ ปริมาณกล่องละ 200 กรัม ราคา 35 บาท 3 กล่อง 100 บาท และ 300 กรัม ราคา 59 บาท 2 กล่อง 100 บาท ไม่รวมค่าส่ง  ซึ่งสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษกำลังคิดต่อยอดร่วมกับภาคส่วนพันธมิตรเพราะถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของจังหวัด ซึ่งก่อนหน้านี้หอมแดงศรีสะเกษก็มีปัญหาล้นตลาด ส่งจำหน่ายไม่ได้ด้วยติดสถานการณ์โควิด-19 จึงจะสร้างมาตรฐานและเพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรได้จำหน่ายหอมแดงเป็นกล่องที่เพิ่มมูลค่าต่อยอดจากการจำหน่ายเป็นกิโลกรัมหรือเป็นตัน หากสนใจผลิตภัณฑ์ ‘กิมจิต้นหอมยางชุมน้อย’ สามารถสอบถามหรือสั่งซื้อได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 08-8714-9714

         ขณะที่ ‘กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ไฮเลิง’ เป็นกลุ่มที่ขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกรกับสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ เป็นกลุ่มเลี้ยงกบพันธุ์บูลฟร็อก ทำหนังสือขอรับความช่วยเหลือเนื่องจากกลุ่มได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ทางบริษัทที่รับซื้อกบไม่สามารถเดินทางมารับกบไปจำหน่ายได้ ทำให้กบตกค้างประมาณ 30 ตัน เกษตรกรแบกรับต้นทุนอาหารกบไม่ไหว สภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษจึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งปรึกษา ‘เชฟเต๋า’ ด้วยทั้งนี้ เพื่อแนะนำเรื่องการจำหน่าย  แปรรูป การตลาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งการแปรรูปเริ่มแรกทำแล้วทดลองจำหน่ายในกลุ่มเล็กๆต่อมาทำจำหน่ายในจังหวัดปรากฏว่ายอดสั่งซื้อถือว่าดี เสียงตอบรับดี รวมทั้งรับคำสั่งซื้อจากนอกพื้นที่รวมทั้งกรุงเทพฯด้วย

       โดย นางสุชาดา หินกล้า ประธานกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ไฮเลิง เปิดเผยว่า ได้รับความรู้และการแนะนำจากสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ และ ‘เชฟเต๋า’ หลักคือการแปรรูป และจะไม่ทำเหมือนตามตลาดทั่วไปแต่จะแบ่งเป็นชิ้นส่วน มีน่อง ตัว น่องใหญ่ น่องเล็ก  กบยัดไส้ กบอั่ว หัวกบทอด  อ่อมเครื่องใน และต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็น หนังกบทอดรสจี๊ดจ๊าด  รสบาร์บีคิว   ขณะที่ขี้กบก็นำไปเลี้ยงหนอนโปรตีนแล้วนำหนอนกลับมาเลี้ยงกบอีกที โดยกบที่นำมาแปรรูปจะมีน้ำหนักประมาณ 3 ขีดกว่าๆ 3-4 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม ราคาประมาณ 300 – 400 บาท ถ้าแยกขายเป็นแพ็ค ขากบสด น่องกบสด ราคากิโลกรัมละ 350 บาท  , กบสดตัวละ 140 บาท  , หนังกบสดกิโลกรัมละ 50 บาท  , หนังกบทอดกิโลกรัมละ 250-300 บาท   ,  น่องกบทอด กิโลกรัมละ 300 – 350 บาท ส่งขายซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์  งานโอทอป  MOBILE พาณิชย์  รวมทั้งรับคำสั่งซื้อแล้วส่งผ่านระบบไปรษณีย์ หากสนใจทดลองรสชาติกบของกลุ่มฯสามารถสั่งซื้อหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ไฮเลิง 08-6277-7055

…………………………………………………………

ข่าว : วัฒนรินทร์  สุขีวัย

ภาพ : สภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ