สภาเกษตรกรฯสำรวจปัญหาและความต้องการพัฒนาภาคเกษตรที่แท้จริงของเกษตรกร

              นายเสน่ห์ วิชัยวงษ์ รองเลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้กล่าวถึงการสำรวจข้อมูลสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาของเกษตรกร ว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้วประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติมีนโยบายที่จะพัฒนาภาคเกษตรจากเกษตรกรผู้ขายวัตถุดิบไปเป็นอุตสาหกรรม จึงเป็นแนวทางให้สภาฯได้จัดทำแผนพัฒนาตำบลในทุกตำบลโดยเริ่มต้นที่อำเภอละ 1 ตำบล เจตนาที่ลงไปทำแผนก็เพื่อต้องการที่จะค้นหาศักยภาพของตำบลนั้นๆ ของกลุ่มเกษตรกร, เกษตรกรรายบุคคลว่ามีศักยภาพด้านใดบ้าง การที่เราลงไปทำแผนตำบลจะได้ข้อมูลที่เป็นข้อมูลพื้นฐานและข้อมูลที่เป็นความต้องการของเกษตรกรจริงในความต้องการที่อยากจะได้รับการพัฒนาในเรื่องอะไร ความต้องการที่อยากจะต่อยอดเป็นเกษตรอุตสาหกรรมเรื่องใด โดยสภาเกษตรกรฯทำมาทุกปี ปีละ 888 อำเภอ 888 ตำบลในทุกปี ตอนนี้ขึ้นปีที่ 3 ซึ่งข้อมูลที่ได้มาเบื้องต้น 2 ปีนี้ก็จะมีอยู่ประมาณ 2,000 ตำบล 2,000 กลุ่ม  ในจำนวนนี้แต่ละจังหวัดต้องสำรวจและจัดเก็บข้อมูลว่าเกษตรกร/หมู่บ้าน/องค์กรนี้เหมาะที่จะทำอะไร มีความสนใจเรื่องอะไร มีองค์ความรู้เดิมเรื่องอะไร เหล่านี้เป็นพื้นฐานข้อมูลที่สำคัญ เมื่อได้ข้อมูลมาสิ่งที่เราต้องดำเนินการต่อคือคลังข้อมูลหรือดาต้าแบงค์ ที่เป็นความต้องการของเกษตรกรอย่างแท้จริง สภาเกษตรกรฯจึงต้องจัดทำเรื่องนี้ระดับจังหวัดและระดับชาติด้วย เพื่อเวลาที่จะไปบูรณาการโครงการเพื่อเกษตรกรกับหน่วยงานต่างๆ หากมีคลังข้อมูลก็สามารถดำเนินการได้ทันท่วงทีและตรงกับความต้องการของเกษตรกรอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้มาในขณะนี้ความต้องการรับการพัฒนา 4 ภาคทั่วประเทศ รวม 636 หมู่บ้าน  547 องค์กร 32,292 ราย ต้องการพัฒนาด้านพืช สัตว์ ประมง อาหาร บรรจุภัณฑ์ ท่องเที่ยวเชิงเกษตร แปรรูป เครื่องจักรกล เป็นต้น สำหรับข้อมูลที่สภาเกษตรกรจังหวัดจัดเก็บเพื่อเตรียมทำแผนตำบล ณ วันที่ 16 ต.ค.2560 ภาคเหนือ 186 ตำบล ภาคกลาง 220 ตำบล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 317 ตำบล ภาคใต้ 157 ตำบล รวมทั้งสิ้น 880 ตำบล  โดยข้อมูลนี้เป็นข้อมูลสำคัญที่สภาเกษตรกรฯจะนำไปเชื่อมโยงในการพัฒนาเกษตรกรร่วมกับการบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆด้วย เช่นที่ผ่านสภาเกษตรกรฯได้นำข้อมูลเข้าบูรณาการร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย สถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร 4 ภาค และล่าสุดประสานข้อมูลกับกรมการพัฒนาชุมชนเพื่อดำเนินการในปีงบประมาณ 2561 ต่อไป

“ โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก เกษตรกรควรปรับตัว กระตือรือร้น พัฒนาตนเองไปสู่ผู้ประกอบการ สภาเกษตรกรฯจะเป็นกลไกในการเชื่อมโยง ประสานหน่วยงานต่างๆนำองค์ความรู้สู่เกษตรกรให้ตรงกับปัญหาและความต้องการพัฒนา ” นายเสน่ห์ กล่าวปิดท้าย

………………………………………………………………..

ข่าว : วัฒนรินทร์ สุขีวัย

ภาพ : ธีรเจต มณีโรจน์ / วัชร มีแสงเงิน

อำนวยการข่าว : ภาสันต์ นุพาสันต์